"แน็ป" คู่รัก คู่ร็อก "ดา" "เรทโทรสเปค" ดังชั่วข้ามคืน
นับเป็นปีทองขอแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว เมื่อจู่ ๆ 4 หนุ่ม วงเรทโทรสเปค (Retrospect) ซึ่งประกอบด้วย แน็ป-ชนัทธา สายศิลา (ร้องนำ), น็อต-ธนพล ศรีกาญจนา (กีตาร์), บอม-ณพวัชร คชาชีวะ (เบส), เบิร์ท-ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ (กลอง) ดังเพียงชั่วข้ามคืน เปรียบเสมือนคลื่นใต้น้ำที่เริ่มก่อตัว เป็นกลุ่มคนดนตรีกลุ่มใหม่ในแบบฉบับวงดนตรีใต้ดิน ที่ชาวร็อกตัวจริงการันตีความมันในการแสดงสดได้สะใจถึงกึ๋น! ก่อนจะโผล่ขึ้นมาระเบิดความมันในอัลบั้มเต็มในผลงานชุดแรก ที่ปลดปล่อยทุกพันธนาการทางดนตรีร็อก กับอัลบั้ม "Unleashed" อให้ชาวเรทโทรเรี่ยน (Retrorian) ได้ฟังกันไปแล้ว วันนี้ขอลัดคิวงานมา "พักไมค์" ให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับการทำงานเพลง เป็นอัลบั้มแรกที่โผล่จากใต้ดินก็ได้รับฟีดแบ็กจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี ตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ? แน็ป : พวกเรารู้สึกปลื้มและดีใจมาก ๆ เลยครับ เพราะว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันไว้มากมายขนาดนี้เลย เพียงแต่ทำในสิ่งที่เราเชื่อและเต็มที่กับมัน ผลตอบรับที่ได้มาเป็นเหมือนโบนัสที่มีคุณค่าสำหรับเราครับ รู้สึกอย่างไรที่ทำให้คนฟังหันมาสนใจในแนวดนตรีร็อกแบบเรทโทรสเปคมากขึ้น... แน็ป :ก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำให้ใคร ๆ หลาย ๆ คนได้หันกลับมาฟังเพลงร็อก หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้กระแสเพลงหลัก ๆ ของบ้านเรา ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงฮิปฮอป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากพวกเราขาดแฟนเพลงที่คอยให้การสนับสนุน และคอยช่วยผลักดันส่งเสริม พวกเราว่าจุดนั้นน่าจะยกความดีความชอบให้ชาวเรทโทรเรี่ยนทุกคนมากกว่า พวกเขาช่วยกระจายกำลังใจได้ดีเหลือเกิน ก่อนที่จะออกอัลบั้มเต็ม "Unleashed" เคยกังวลบ้างไหมว่าแนวดนตรีร็อก ๆ อย่างเราอาจจะยังไม่เข้าถึงแฟนเพลงมากนัก อีกอย่างเกรงว่าแนวดนตรีจะหนักเกินไปหรือไม่ ? แน็ป : มีบ้างครับ แต่ก็อย่างที่บอก เราแค่รักและทำในสิ่งที่เราเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเราพอสมควร พวกเราคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของจังหวะและโชคชะตาด้วยเหมือนกัน ในแง่ของการทำงานเห็นว่าทั้ง 4 หนุ่ม แน็ป, น็อต, เบิร์ท และ บอม มีส่วนร่วมแบบเต็ม ๆ เกือบทุกขั้นตอน แล้วมี การแบ่งงานกันอย่างไร แน็ป : เรื่องของการแบ่งงานเราไว้ใจให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน เราก็เปิดใจและรับความคิดเห็นของทุกคนเสมอครับ ที่ผ่านมาบรรยากาศคอนเสิร์ต "Retrospect The First" แฟนเพลงดูโชว์อย่างออกรสออกชาติ ทั้งวิ่งชนหรือมีการกระโดดลงมาจากเวทีแล้วให้คนดูรับ ตรงนี้กลัวมั้ยว่าคนดูจะมีการกระทบกระทั่งกันจริง ๆ แน็ป : ต้องบอกก่อนว่าอย่างดนตรีฮิปฮอปเวลาที่เราดูคอนเสิร์ต จะเต้นไปด้วย ชาวเรทโทรเรี่ยนก็เหมือนกัน เป็นเหมือนวัฒนธรรมในการดูคอนเสิร์ต ลวดลายท่าทางในการเต้น เช่น การแทค (TAG) คือ การกระโดดแล้วเอาลำตัวกระแทกกัน หรือ เซิร์ฟ (SURF) คือ การลอยตัวบนมือเหมือนเราโต้คลื่น แต่ตัวคลื่นก็คือมือของเพื่อน ๆ เราที่คอยรับช่วงต่อเป็นทอด ๆ ยิ่งถ้าเป็นความรู้สึกในคอนเสิร์ตจะสนุกมาก เวลาที่เราเล่นพร้อมกันเยอะ ๆ เรื่องการกระทบกระทั่งกันมันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่เราพยายามจะปลูกฝังให้กับชาวเรทโทรเรี่ยน คือ การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเรียนรู้ที่จะให้อภัยกัน อย่างคอนเสิร์ตที่ผ่านมา พวกเรามันมากเรารู้สึกได้ว่าคนดูก็สนุก เราเล่นกันหลายกระบวนท่าแบบไม่มีใครได้รับอันตรายเลยครับ เป็นความรู้สึกที่ทำให้พวกเรายิ่งรู้สึกประทับใจในแฟนเพลงของเราครับ
ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงที่ 4 "สุดที่รัก" ออกไป ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับดีจนเพลงสามารถไต่ขึ้นชาร์ตเพลงตามคลื่นวิทยุอันดับต้น ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้คิดว่าอะไรที่ทำให้เพลงของ เรทโทรสเปค เป็นที่ยอมรับจากแฟนเพลงท่วมท้นขนาดนี้ แน็ป : อาจเป็นเพระชาวเรทโทรเรี่ยนเห็นความตั้งใจในการทำงานของพวกเรา และเพลง "สุดที่รัก" เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย เป็นเพลงซึ้ง ๆ พวกเราเชื่อว่าน่าจะโดนใจใครหลาย ๆ คน ประเด็นคู่พังก์-ร็อก ที่แฟนเพลงน่าจะรู้ว่า สาวดา-ธนิดา หรือ ดา เอ็นโดรฟิน กำลังคบหาดูใจกับ หนุ่มแน็ป อยู่ จนทำให้เป็นที่จับตามองถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แน็ป :ก็ดีครับ ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องงาน ปรึกษาเรื่องงาน เพราะดาเองก็มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าผม ออกมาหลายอัลบั้มแล้ว อย่างช่วงนี้ต่างคนก็ต่างทำงาน ส่วนใหญ่จะคุยกันทางโทรศัพท์มากกว่าครับ ถึงวันนี้มีอะไรอยากบอกกับแฟนเพลงบ้าง ? แน็ป :ขอขอบคุณครับ ขอบคุณด้วยใจจริง และยินดีมาก ๆ ด้วยที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงการเพลงร็อกบ้านเรา และอยากฝากถึงน้อง ๆ เพื่อน ๆ ที่กำลังฟันฝ่าเส้นทางเส้นนี้อยู่ก็สู้ต่อไปนะครับ เพราะอย่างพวกเราเองกว่าจะได้มีอัลบั้มเต็มเป็นของตัวเอง ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายาม สักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเราครับ ขอบคุณครับ ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า วงร็อกรุ่นใหม่จะมีทิศทางต่อไปอย่างไร ที่แน่ ๆ คงก้าวไปอยู่ในใจคอร็อกแล้วเรียบร้อย
นับเป็นปีทองขอแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว เมื่อจู่ ๆ 4 หนุ่ม วงเรทโทรสเปค (Retrospect) ซึ่งประกอบด้วย แน็ป-ชนัทธา สายศิลา (ร้องนำ), น็อต-ธนพล ศรีกาญจนา (กีตาร์), บอม-ณพวัชร คชาชีวะ (เบส), เบิร์ท-ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ (กลอง) ดังเพียงชั่วข้ามคืน เปรียบเสมือนคลื่นใต้น้ำที่เริ่มก่อตัว เป็นกลุ่มคนดนตรีกลุ่มใหม่ในแบบฉบับวงดนตรีใต้ดิน ที่ชาวร็อกตัวจริงการันตีความมันในการแสดงสดได้สะใจถึงกึ๋น! ก่อนจะโผล่ขึ้นมาระเบิดความมันในอัลบั้มเต็มในผลงานชุดแรก ที่ปลดปล่อยทุกพันธนาการทางดนตรีร็อก กับอัลบั้ม "Unleashed" อให้ชาวเรทโทรเรี่ยน (Retrorian) ได้ฟังกันไปแล้ว วันนี้ขอลัดคิวงานมา "พักไมค์" ให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับการทำงานเพลง เป็นอัลบั้มแรกที่โผล่จากใต้ดินก็ได้รับฟีดแบ็กจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี ตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ? แน็ป : พวกเรารู้สึกปลื้มและดีใจมาก ๆ เลยครับ เพราะว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันไว้มากมายขนาดนี้เลย เพียงแต่ทำในสิ่งที่เราเชื่อและเต็มที่กับมัน ผลตอบรับที่ได้มาเป็นเหมือนโบนัสที่มีคุณค่าสำหรับเราครับ รู้สึกอย่างไรที่ทำให้คนฟังหันมาสนใจในแนวดนตรีร็อกแบบเรทโทรสเปคมากขึ้น... แน็ป :ก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำให้ใคร ๆ หลาย ๆ คนได้หันกลับมาฟังเพลงร็อก หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้กระแสเพลงหลัก ๆ ของบ้านเรา ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงฮิปฮอป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากพวกเราขาดแฟนเพลงที่คอยให้การสนับสนุน และคอยช่วยผลักดันส่งเสริม พวกเราว่าจุดนั้นน่าจะยกความดีความชอบให้ชาวเรทโทรเรี่ยนทุกคนมากกว่า พวกเขาช่วยกระจายกำลังใจได้ดีเหลือเกิน ก่อนที่จะออกอัลบั้มเต็ม "Unleashed" เคยกังวลบ้างไหมว่าแนวดนตรีร็อก ๆ อย่างเราอาจจะยังไม่เข้าถึงแฟนเพลงมากนัก อีกอย่างเกรงว่าแนวดนตรีจะหนักเกินไปหรือไม่ ? แน็ป : มีบ้างครับ แต่ก็อย่างที่บอก เราแค่รักและทำในสิ่งที่เราเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเราพอสมควร พวกเราคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของจังหวะและโชคชะตาด้วยเหมือนกัน ในแง่ของการทำงานเห็นว่าทั้ง 4 หนุ่ม แน็ป, น็อต, เบิร์ท และ บอม มีส่วนร่วมแบบเต็ม ๆ เกือบทุกขั้นตอน แล้วมี การแบ่งงานกันอย่างไร แน็ป : เรื่องของการแบ่งงานเราไว้ใจให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน เราก็เปิดใจและรับความคิดเห็นของทุกคนเสมอครับ ที่ผ่านมาบรรยากาศคอนเสิร์ต "Retrospect The First" แฟนเพลงดูโชว์อย่างออกรสออกชาติ ทั้งวิ่งชนหรือมีการกระโดดลงมาจากเวทีแล้วให้คนดูรับ ตรงนี้กลัวมั้ยว่าคนดูจะมีการกระทบกระทั่งกันจริง ๆ แน็ป : ต้องบอกก่อนว่าอย่างดนตรีฮิปฮอปเวลาที่เราดูคอนเสิร์ต จะเต้นไปด้วย ชาวเรทโทรเรี่ยนก็เหมือนกัน เป็นเหมือนวัฒนธรรมในการดูคอนเสิร์ต ลวดลายท่าทางในการเต้น เช่น การแทค (TAG) คือ การกระโดดแล้วเอาลำตัวกระแทกกัน หรือ เซิร์ฟ (SURF) คือ การลอยตัวบนมือเหมือนเราโต้คลื่น แต่ตัวคลื่นก็คือมือของเพื่อน ๆ เราที่คอยรับช่วงต่อเป็นทอด ๆ ยิ่งถ้าเป็นความรู้สึกในคอนเสิร์ตจะสนุกมาก เวลาที่เราเล่นพร้อมกันเยอะ ๆ เรื่องการกระทบกระทั่งกันมันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่เราพยายามจะปลูกฝังให้กับชาวเรทโทรเรี่ยน คือ การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเรียนรู้ที่จะให้อภัยกัน อย่างคอนเสิร์ตที่ผ่านมา พวกเรามันมากเรารู้สึกได้ว่าคนดูก็สนุก เราเล่นกันหลายกระบวนท่าแบบไม่มีใครได้รับอันตรายเลยครับ เป็นความรู้สึกที่ทำให้พวกเรายิ่งรู้สึกประทับใจในแฟนเพลงของเราครับ
ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงที่ 4 "สุดที่รัก" ออกไป ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับดีจนเพลงสามารถไต่ขึ้นชาร์ตเพลงตามคลื่นวิทยุอันดับต้น ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้คิดว่าอะไรที่ทำให้เพลงของ เรทโทรสเปค เป็นที่ยอมรับจากแฟนเพลงท่วมท้นขนาดนี้ แน็ป : อาจเป็นเพระชาวเรทโทรเรี่ยนเห็นความตั้งใจในการทำงานของพวกเรา และเพลง "สุดที่รัก" เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย เป็นเพลงซึ้ง ๆ พวกเราเชื่อว่าน่าจะโดนใจใครหลาย ๆ คน ประเด็นคู่พังก์-ร็อก ที่แฟนเพลงน่าจะรู้ว่า สาวดา-ธนิดา หรือ ดา เอ็นโดรฟิน กำลังคบหาดูใจกับ หนุ่มแน็ป อยู่ จนทำให้เป็นที่จับตามองถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แน็ป :ก็ดีครับ ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องงาน ปรึกษาเรื่องงาน เพราะดาเองก็มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าผม ออกมาหลายอัลบั้มแล้ว อย่างช่วงนี้ต่างคนก็ต่างทำงาน ส่วนใหญ่จะคุยกันทางโทรศัพท์มากกว่าครับ ถึงวันนี้มีอะไรอยากบอกกับแฟนเพลงบ้าง ? แน็ป :ขอขอบคุณครับ ขอบคุณด้วยใจจริง และยินดีมาก ๆ ด้วยที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงการเพลงร็อกบ้านเรา และอยากฝากถึงน้อง ๆ เพื่อน ๆ ที่กำลังฟันฝ่าเส้นทางเส้นนี้อยู่ก็สู้ต่อไปนะครับ เพราะอย่างพวกเราเองกว่าจะได้มีอัลบั้มเต็มเป็นของตัวเอง ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายาม สักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเราครับ ขอบคุณครับ ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า วงร็อกรุ่นใหม่จะมีทิศทางต่อไปอย่างไร ที่แน่ ๆ คงก้าวไปอยู่ในใจคอร็อกแล้วเรียบร้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น